คนที่ใช้ Excel ส่วนใหญ่ มักจะคุ้นเคยกับ Vlookup หรือ Hlookup มากกว่า Lookup ท่านทราบหรือไม่ว่า
-แท้จริงแล้ว Lookup ใช้งานได้ไม่น้อยไปกว่า Vlookup จะพูดว่า Lookup ใช้แทน VLookup ได้ทุกกรณีก็น่าจะไม่ผิดนัก แม้ว่าจะต้องใช้ร่วมกับฟังก์ชั่นอื่นๆบ้างก็ตาม
- หลักการพื้นฐานของ Lookup คือ Lookup อ่านค่าหรือให้ผลลัพธ์ ที่ค่าสุดท้ายเสมอ
- หลักการพื้นฐานของ Lookup คือ สะพานในการ Lookup ต้องเรียงจากน้อยไปมาก
- หากสะพานในการ Lookup ไม่เรียงจากน้อยไปมาก ต้องสร้างสะพานที่ไม่เปิดเผย (สะพานลับ) ขึ้น ใหม่ในชุด Array ด้วยวิธีการใด วิธีหนึ่ง เพื่อให้เกิดค่าในการ Lookup ได้
** คำว่าสะพาน - สะพานที่ไม่เปิดเผย หรือ สะพานลับนี้ ผมเรียกคำนี้ขึ้นมา เพื่อให้เป็นคำอธิบาย แทนความหมายของการ ลิ้งก์ หรือ เชื่อมโยง หรือ Matching ระหว่างค่าหรือข้อมูลใดๆ
-Lookup ยังสามารถอ่านค่าทะลุ ค่า Error ได้อย่างสบายๆ นั่นคือ ค่า Error ไม่มีผลต่อ Lookup แต่อย่างใด
-Lookup อ่านทะลุค่าในชุด Array โดยไม่ต้องกดเป็น Array เต็มรูปได้
- ในการใช้งานในระดับสลับซับซ้อนใน Excel นั้น Lookup คือฟังก์ชั่นสำคัญที่ต้องมีไว้ติดตัว
- การใช้ค่าที่มากกว่า ค่าในชุดข้อมูลใดๆ Lookup จะนำค่าสุดท้ายมาแสดงเสมอ
- เหตุใดจึงมักใช้ Lookup กับ Char(255) ในการอ่านค่า Text
- เหตุใดจึงไม่ใช้ Lookup กับ Char(255) ในการอ่านค่า Number
-กรณีที่สะพานมีค่าซ้ำกัน เช่น 1-1-1,3-3,5-5-5 และเรียงค่าจากน้อยไปมาก เมื่อ Lookup จะดึงค่าสุดท้ายของแต่ละรายการมาแสดงเสมอ
-กรณีที่สะพานมีค่าซ้ำกัน แต่สะพานไม่ เรียงค่าจากน้อยไปมาก เช่น 3-3,1-1-1,5-5-5 เมื่อ Lookup จะได้ผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้อง หากต้องการให้ผลลัพธ์นั้นถูกต้อง จำเป็นต้องสร้างสะพานในชุด Array นั้น โดยบังคับค่าที่ไม่เกี่ยวข้องกับค่าที่ต้องการ Lookup ให้ติดเป็นค่า Error เพื่อให้ Lookup ได้
- ท่านอาจจะเคยเห็น สูตร LOOKUP(2,1/.........) ท่านทราบหรือไม่ว่า 1 คืออะไร และ 2 คืออะไร และท่านทราบหรือไม่ว่า Lookup แบบนี้ ไม่ต้องใช้เลข 2 ก็ได้
บทเรียนในคอร์ส เจาะลึก Lookup พื้นฐานยัน Array ได้อธิบาย การใช้ Lookup พื้นฐาน ที่ผู้เรียนจำเป็นต้องทราบ จากบทเรียนง่ายๆ ไปจนถึงการใช้ Lookup แบบประยุกต์ ด้วยจำนวนตัวอย่างที่มากพอ เพื่อให้ผู้เรียนได้เข้าใจและสามารถนำ Lookup ไปใช้งานได้จริง
หลังเรียนจบทุกบทเรียน ผู้เรียนจะสามารถเข้าใจการทำงานของ Lookup และสามารถนำ Lookup ไปประยุกต์ใช้กับโจทย์ ที่มีความสลับซับซ้อน ในระดับที่สูงลิ่วขึ้นไป